เทรด STP vs ECN : แตกต่างกันอย่างไร เทรดแบบไหนเหมาะกับคุณ
ECN (Electronic Communication Network) และ STP (Straight Through Processing) เป็นรูปแบบของการเทรดในตลาดการเงินที่มีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันแต่มีเป้าหมายที่เหมือนกันคือการให้ผู้เทรดสามารถเข้าถึงตลาดการเงินโดยตรงโดยไม่ผ่านผู้กลาง ซึ่งช่วยให้มีความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการเทรดมากขึ้นสำหรับผู้ใช้งาน
การเทรด STP คือ
การเทรด STP (Straight Through Processing) เป็นรูปแบบหนึ่งของการซื้อขายในตลาดการเงินที่ใช้เทคโนโลยีในการประมวลผลคำสั่งซื้อและการทำธุรกรรมโดยที่ไม่มีการมีคนกลางระหว่างในกระบวนการ การเทรดแบบ STP มุ่งเน้นให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นโดยเร็วและโปร่งใส ซึ่งผู้เทรดสามารถทำธุรกรรมได้โดยตรงกับตลาดหรือผู้ให้ liquidity โดยไม่ผ่านโบรกเกอร์หรือตัวกลางใดๆ ทำให้มีความยืดหยุ่นและความรวดเร็วในการทำธุรกรรมมากขึ้น
จุดเด่นที่สำคัญของ STP
1.การทำธุรกรรมในบัญชี STP มักจะเป็นอย่างรวดเร็ว ด้วยกระบวนการทำธุรกรรมที่ไม่มีคนกลาง ทำให้ผู้เทรดสามารถทำธุรกรรมได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคอยจากตัวกลางใดๆ
2.ผู้ใช้บัญชี STP สามารถดูราคาซื้อขายจากตลาดจริง และทำธุรกรรมโดยตรงกับผู้ให้ liquidity ในตลาดได้โดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อถือในการทำธุรกรรม
3.บัญชี STP มักจะมี spread ที่ต่ำ ซึ่งช่วยให้ผู้เทรดได้รับราคาที่ดีกว่าและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าในการทำธุรกรรม
4. ผู้เทรดสามารถเลือกทำธุรกรรมในรูปแบบที่ต่างกันได้ เช่น การซื้อขายทันที (instant execution) หรือการทำธุรกรรมในรูปแบบของการต่อรอง (negotiation) ตามความต้องการและกำลังความสามารถของผู้เทรด
5.บัญชี STP มักจะมีค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมและโปร่งใส โดยมักจะเสมอกับค่า spread และบางครั้งอาจจะมีค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขาย
ข้อเสียหลักๆ ของการเทรด STP
1.อาจมีค่าธรรมเนียมที่สูงในรูปแบบของค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายหรือค่า spread ซึ่งอาจทำให้ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในการทำธุรกรรม
2.มีข้อจำกัดในการเลือกซื้อขายบางอย่าง ทั้งในเรื่องของสัญญาเงินฝากเงิน ขนาดสัญญาซื้อขาย ซึ่งอาจมีผลต่อการทำธุรกรรมของผู้เทรด
การเทรด ECN คือ
การเทรด ECN (Electronic Communication Network) เป็นการทำธุรกรรมการเงินในตลาด Forex (ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ) หรือตลาดอื่น ๆ โดยใช้ระบบ ECN ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้เทรดสามารถเชื่อมโยงราคาซื้อขายและซื้อขายในตลาดในรูปแบบที่โปร่งใสและไม่มีการกำหนดราคาเอง แต่จะเปิดให้ผู้ใช้มีโอกาสดูราคาที่มีอยู่ในตลาดจริงและทำธุรกรรมโดยตรงกับผู้อื่นที่มีคำขอการซื้อขายที่เข้ามาตรงกันในระบบ ECN
การเทรดในรูปแบบ ECN ช่วยให้ผู้เทรดได้รับการซื้อขายที่มีความโปร่งใส โดยสามารถเห็นราคา Bid (ราคาซื้อ) และ Ask (ราคาขาย) ที่เกิดขึ้นในตลาด และมีโอกาสในการซื้อขายตรงกับผู้เทรดอื่นๆ ที่อยู่ในระบบ ECN โดยตรง โดยไม่ผ่านตัวกลางหรือโบรกเกอร์ ทำให้มีความสะดวกสบายและโอกาสในการทำธุรกรรมที่มีความเร็วและประสิทธิภาพสูง
บัญชีการเทรด ECN มักจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากบัญชีอื่น ๆ โดยมักจะมี spread ที่ต่ำมาก แต่อาจมีค่าคอมมิชชั่นที่เกิดจากการซื้อขายที่ถูกกำหนดไว้ เป็นต้น นอกจากนี้ การเทรดในรูปแบบ ECN ยังมีความยืดหยุ่นในการเข้าถึงตลาดและประสิทธิภาพในการซื้อขายที่มากขึ้น เช่น การทำธุรกรรมทันที หรือการเลือกผู้ให้ liquidity ต่างๆ ได้ตามต้องการของผู้เทรดเอง
การเทรด ECN เป็นที่นิยมในวงการการเงิน เนื่องจากการซื้อขายที่โปร่งใสและเปิดโอกาสให้กับผู้เทรดในการทำธุรกรรมในตลาดโดยตรงโดยไม่ผ่านกลไกของโบรกเกอร์หรือตัวกลางใดๆ ทำให้มีความคล่องตัวและความเป็นอิสระในการเลือกการทำธุรกรรมได้ตามต้องการและกำลังความสามารถของผู้เทรดเอง
จุดเด่นที่สำคัญของ ECN
1.ผู้ใช้บัญชี ECN สามารถทำธุรกรรมโดยตรงกับผู้ซื้อหรือผู้ขายในตลาดการเงิน ซึ่งช่วยให้มีโอกาสในการซื้อขายกับผู้เข้ามาในตลาดโดยตรง
2.ราคาที่แสดงในบัญชี ECN มักจะเป็นราคาจากตลาดจริงโดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อถือในการทำธุรกรรม
3.บัญชี ECN มักจะมี spread ที่ต่ำซึ่งช่วยให้ผู้เทรดได้รับราคาที่ดีกว่าและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าในการทำธุรกรรม
4.การทำธุรกรรมในบัญชี ECN มักจะเป็นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่มีการรอคอยจากตัวกลางในการตรวจสอบหรือประมวลผลคำสั่งซื้อเพิ่มเติม
5.ผู้เทรดสามารถซื้อขายในปริมาณที่ใหญ่หรือต่ำได้ตามต้องการ เนื่องจากมีผู้ซื้อขายหลายรายที่เข้ามาในตลาด ECN
6.ตลาด ECN มีการทำงานตลอดเวลา 24 ชั่วโมงตลอดวัน ทำให้ผู้เทรดสามารถทำธุรกรรมได้ตามต้องการและเวลาที่เหมาะสม
ข้อเสียหลักๆ ของการเทรด ECN
1.บางโบรกเกอร์ ECN อาจมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่า เช่นค่าคอมมิชชั่น ค่า spread ที่ต้องจ่ายเมื่อทำการซื้อขาย
2.บางโบรกเกอร์ ECN อาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับขนาดการซื้อขายหรือการเข้าถึงตลาดบางประเภทที่อาจทำให้ไม่สามารถซื้อขายได้ตามต้องการ
3.การทำธุรกรรมโดยตรงกับตลาดอาจทำให้ข้อมูลการซื้อขายของผู้เทรดเป็นที่รู้จัก ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูลการเทรด
4.บางช่วงเวลา ตลาด ECN อาจมีความผันผวนของราคามากเนื่องจากคำสั่งซื้อขายที่มีปริมาณมาก ซึ่งอาจทำให้มี spread ที่ขยับเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการเทรด STP และ การเทรด ECN
Feature | การเทรด STP | การเทรด ECN |
---|---|---|
การดำเนินการซื้อขาย | การทำธุรกรรมใน STP ทำผ่านโบรกเกอร์หรือตัวกลาง ซึ่งต่อไปจะส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดหรือผู้ให้ liquidity ที่ตามมา เป็นรูปแบบที่มีการตัดสินใจของโบรกเกอร์ในการจัดการคำสั่งซื้อขาย | การทำธุรกรรมใน ECN ทำตรงกับตลาดหรือผู้ให้ liquidity โดยตรง ผู้เทรดมีโอกาสซื้อขายตามราคาที่เห็นบนระบบ ECN ซึ่งเป็นราคาจากตลาดจริง |
ต้นทุนการซื้อขาย | การแสดงราคาใน STP อาจมาจากผู้ให้ liquidity หรือตลาดจริง แต่โบรกเกอร์หรือตัวกลางสามารถกำหนด spread หรือเพิ่มค่าคอมมิชชั่นเพื่อทำกำไร | การแสดงราคาใน ECN มักเป็นราคาจากตลาดจริงโดยตรง ผู้ใช้สามารถดูราคาและซื้อขายตามราคานั้นได้ และมักจะมี spread ที่ต่ำกว่า |
สภาพคล่อง | การทำธุรกรรมใน STP มักจะเร็วและรวดเร็ว แต่อาจมีการล่าช้าในการส่งคำสั่งไปยังตลาดจริงเนื่องจากต้องผ่านการประมวลผลของโบรกเกอร์หรือตัวกลาง | การทำธุรกรรมใน ECN มักมีความเร็วและเร็วกว่ามาก เนื่องจากสามารถทำธุรกรรมโดยตรงกับตลาดโดยตรงและไม่ต้องรอการกำหนด spread หรือคำสั่งจากโบรกเกอร์หรือตัวกลาง |
ประเภทของเทรดเดอร์ | เทรดเดอร์ทั่วไปและนักลงทุนระยะกลาง | เทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยๆ และเทรดเดอร์รายวัน |
ทุนเริ่มต้น | ทุนค่อนข้างต่ำ | ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก |
ค่าธรรมเนียม | บัญชี STP อาจมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าในรูปแบบของ spread หรือค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขาย | บัญชี ECN อาจมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า แต่ก็อาจมีค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายที่ต้องจ่ายเมื่อทำการซื้อขาย |
รูปแบบการซื้อขาย | การลงทุนระยะยาวหรือหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด | ความผันผวนในระยะสั้นและการซื้อขายที่รวดเร็ว |
STP VS ECN: อันไหนเหมาะกับคุณ
การเทรดแบบ STP และ ECN มีข้อดีและข้อเสียของแต่ละรูปแบบ ผู้เทรดควรพิจารณาดูคุณสมบัติและความต้องการส่วนบุคคลเพื่อเลือกวิธีการทำธุรกรรมที่เหมาะสม
เทรดเดอร์ที่ต้องการ การซื้อขายที่ไม่มีความซับซ้อน มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ การเทรดแบบ STP อาจเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากมีความเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนมาก และมักจะมี spread ที่แน่นอนและค่าธรรมเนียมที่เป็นร้อยละของปริมาณการซื้อขาย
แต่หากเทรดเดอร์สนใจในความคุ้มค่าในการซื้อขายและเข้าถึงคำสั่งซื้อขายที่หลากหลาย การเทรด ECN มักจะมี spread ที่ต่ำกว่า ซึ่งอาจมีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่สนใจในค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่สุด และต้องการเข้าถึงคำสั่งซื้อขายที่แตกต่างกันได้
การซื้อขายอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสําหรับทุกคน